1. มีคุณสมบัติครบในการป้องกันทั้งรังสี UVB และ UVA ไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนัง เช่น คัน ผื่น
2. ดูที่ค่า SPF (SUN PROTECTIVE FACTOR) ซึ่งเป็นตัวบอกว่า ป้องกัน UVB ได้กี่เท่าส่วน UVA ยังไม่มีค่ามาตรฐาน ปัจจุบันนิยมใช้ PA และเครื่องหมาย + ปกติคนไทยมีผิวคล้ำซึ่งเม็ดสีสามารถป้องกัน UVB ได้บ้างแล้ว ดังนั้น SPF มากกว่า 15 และ PA++ ขึ้นไป ก็เพียงพอ
3. เลือก ครีมกันแดด ที่มีสารเคมีที่กัน UVA ได้ดีอย่างน้อย 2 ชนิด เช่น OXYBENZONE + TIO2 หรือ PARSOL 1789 + ZNO เป็นต้น
4. ดูที่กิจกรรม ถ้าออกกำลังกลางแจ้ง มีเหงื่อ ว่ายน้ำ ทำงานกลางแดด ต้องใช้ SPF ที่สูงขึ้นและเลือกประเภทที่กันน้ำได้ (WATER PROOF หรือ WATER RESISTANCE)
การทาครีมกันแดด ควรทา ครีมกันแดด ให้หนาเพียงพอ ก่อนอยู่กลางแดด อย่างน้อย 15 นาที และ จำนวนครั้งที่ทาต่อวัน ก็สำคัญนะคะ ถ้าอยู่ในออฟฟิศ ห้องแอร์ วันละครั้งก็เพียงพอค่ะ แต่ถ้าต้องทำงานกลางแดด โดนลม อาจจะทาเติม ถ้าว่ายน้ำต้องทาทุก 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากการทา ยากันแดด2-3 เท่าเลยค่ะ ซ้ำ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการกันแดดได้อีก อย่างไรก็ตาม นอกจากการทา ครีมกันแดด แล้วก็ต้องเลี่ยงแดดด้วยนะคะ อาจจะใส่แว่น ใส่หมวก กางร่ม เนื่องจาก ครีมกันแดด ไม่ว่าจะมีค่า SPF สูงเพียงใด ก็ไม่ได้กันแดดได้ 100 % ค่ะ